ขอเสนอความเห็นเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือสมาชิก
ได้อ่านมาตรการช่วยเหลือสมาชิกของสหกรณ์ฯ แล้ว ขอคิดในมุมมองของคนที่ไม่มีความรู้ด้านการเงินมากนัก
1. ช่วยเหลือการส่งหุ้นรายเดือน โดยลดเหลือขั้นต่ำเหลือ 200 ซึ่งก้อน่าจะช่วยเหลือสมาชิกได้จริง ตามความสมัครใจ แต่ก็ทำให้ยอดเงินปันผลค่าหุ้นลดลง ก็คงแล้วแต่การพิจารณาของสมาชิก
2. การพักชำระหนี้เงินต้น 2 เดือน น่าจะต้องมานั่งคิดกันให้รอบคอบพอสมควร เพราะเป็นเพียงการพักเงินต้น ส่วนดอกเบี้ยยังคงจ่ายปกติ เช่น เดือนมีนาคม 2563 จ่ายค่าเงินต้น 5,000 บาท ดอกเบี้ย 5,000 บาท เดือนเมษายน - พฤษภาคม 2563 ก็ยังคงจ่ายดอกเบี้ยเหลือตามจำนวนเงินต้นคงเหลือของเดือนมีนาคม แน่นอนว่ายอดดอกเบี้ย เมษายน - พฤษภาคม 2563 จะเท่ากันเพราะเงินต้นไม่ได้ถูกหัก เดือนมิถุนายนหักเงินต้นต่อพร้อมดอกเบี้ยที่เท่ากับช่วงพักชำระหนี้ เท่ากับเสียดอกเบี้ยไปฟรีๆ สองเดือน และระยะเวลาในการใช้สิทธิในการขอกู้ย่อมต้องขยับไปอีกสองเดือน รวมถึงความยุ่งยากของการให้คนค้ำประกันมาลงนามอีก คงต้องพิจารณากันว่าเงินต้นที่พักคุ้มค่ากับดอกเบี้ยทีีต้องจ่ายหรือไม่
3. เรื่องการลดดอกเบี้ย คงไม่มีอะไรติดใจนอกจากคำว่ากราบขอบพระคุณจริงๆ สำหรับนโยบายนี้
แต่สิ่งที่อยากเสนอต่อคณะกรรมการสหกรณ์ฯ คงไม่เสนอให้ลดหรืองดโบนัสเพราะเป็นสิ่งที่ท่านควรได้ แต่อยากให้พิจารณาว่าเจตนารมณ์คือการช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกที่เดือดร้อน
1. การช่วยเหลือสมาชิกในช่วงเวลานี้หากพักทั้งต้นทั้งดอก หรือ
2. หักต้นตามปกติ แต่พักดอกเบี้ย สมาชิกไม่ต้องเหนื่อยวิ่งหาคนค้ำ
3. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วงพักชำระหนี้ให้ต่ำกว่า 5.8 เหลือสัก 3.0 พอหมดระยะเวลาพักชำระหนี้แล้วคิดดอกเบี้ยที่ 5.8 ก็ไม่น่ามีคนว่า
ขอบคุณมากครับ เรื่องตัวเลขที่เสนอเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคลที่มองว่าสหกรณ์ฯ มีทรัพย์สินมากพอสมควร และเจตนารมณ์คือการช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกที่เดือดร้อนตามข้อบังคับของสหกรณ์ ไม่ใช่สถาบันการเงินที่มุ่งหวังกำไรจะลองนำความเห็นแบบบ้านๆ ที่ผมเสนอไปลองพิจารณานะครับ หากเงินกำไรปีนี้ลดลงแต่เป็นการทำเพื่อเพื่อนสมาชิกแล้ว สำหรับผมแล้วผมรับได้ครับ
ขอบคุณครับ
1. ช่วยเหลือการส่งหุ้นรายเดือน โดยลดเหลือขั้นต่ำเหลือ 200 ซึ่งก้อน่าจะช่วยเหลือสมาชิกได้จริง ตามความสมัครใจ แต่ก็ทำให้ยอดเงินปันผลค่าหุ้นลดลง ก็คงแล้วแต่การพิจารณาของสมาชิก
2. การพักชำระหนี้เงินต้น 2 เดือน น่าจะต้องมานั่งคิดกันให้รอบคอบพอสมควร เพราะเป็นเพียงการพักเงินต้น ส่วนดอกเบี้ยยังคงจ่ายปกติ เช่น เดือนมีนาคม 2563 จ่ายค่าเงินต้น 5,000 บาท ดอกเบี้ย 5,000 บาท เดือนเมษายน - พฤษภาคม 2563 ก็ยังคงจ่ายดอกเบี้ยเหลือตามจำนวนเงินต้นคงเหลือของเดือนมีนาคม แน่นอนว่ายอดดอกเบี้ย เมษายน - พฤษภาคม 2563 จะเท่ากันเพราะเงินต้นไม่ได้ถูกหัก เดือนมิถุนายนหักเงินต้นต่อพร้อมดอกเบี้ยที่เท่ากับช่วงพักชำระหนี้ เท่ากับเสียดอกเบี้ยไปฟรีๆ สองเดือน และระยะเวลาในการใช้สิทธิในการขอกู้ย่อมต้องขยับไปอีกสองเดือน รวมถึงความยุ่งยากของการให้คนค้ำประกันมาลงนามอีก คงต้องพิจารณากันว่าเงินต้นที่พักคุ้มค่ากับดอกเบี้ยทีีต้องจ่ายหรือไม่
3. เรื่องการลดดอกเบี้ย คงไม่มีอะไรติดใจนอกจากคำว่ากราบขอบพระคุณจริงๆ สำหรับนโยบายนี้
แต่สิ่งที่อยากเสนอต่อคณะกรรมการสหกรณ์ฯ คงไม่เสนอให้ลดหรืองดโบนัสเพราะเป็นสิ่งที่ท่านควรได้ แต่อยากให้พิจารณาว่าเจตนารมณ์คือการช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกที่เดือดร้อน
1. การช่วยเหลือสมาชิกในช่วงเวลานี้หากพักทั้งต้นทั้งดอก หรือ
2. หักต้นตามปกติ แต่พักดอกเบี้ย สมาชิกไม่ต้องเหนื่อยวิ่งหาคนค้ำ
3. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วงพักชำระหนี้ให้ต่ำกว่า 5.8 เหลือสัก 3.0 พอหมดระยะเวลาพักชำระหนี้แล้วคิดดอกเบี้ยที่ 5.8 ก็ไม่น่ามีคนว่า
ขอบคุณมากครับ เรื่องตัวเลขที่เสนอเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคลที่มองว่าสหกรณ์ฯ มีทรัพย์สินมากพอสมควร และเจตนารมณ์คือการช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกที่เดือดร้อนตามข้อบังคับของสหกรณ์ ไม่ใช่สถาบันการเงินที่มุ่งหวังกำไรจะลองนำความเห็นแบบบ้านๆ ที่ผมเสนอไปลองพิจารณานะครับ หากเงินกำไรปีนี้ลดลงแต่เป็นการทำเพื่อเพื่อนสมาชิกแล้ว สำหรับผมแล้วผมรับได้ครับ
ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ #1
เห็นด้วยมากๆค่ะวุ้นวายเหนื่อยมาก..กับเอกสารเยอะแยะไปหมดยิ่งกว่าการกู้เงินอีก สหกรณ์ปีหนึ่งได้กำไลเยอะแยะมากมาย น่าจะลดโดยอัติโนมัติ เหมือนสหกรณ์ออมทรัพย์บางจังหวัด
โหวตคำตอบ
คะแนนโหวต (ทั้งหมด 0 คน) / 0 คะแนน
ความคิดเห็นที่ #2
เห็นด้วยทุกข้อเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องเอกสารยุ่งยากกว่าตอนกู้อีก ทำไมไม่ทำหน้าเว็บไห้ลงทะเบียน ทั้งๆที่สหกรณ์ก็มีข้อมูลของสมาชืกทุกคนอยู่แล้ว
โหวตคำตอบ
คะแนนโหวต (ทั้งหมด 0 คน) / 0 คะแนน
ความคิดเห็นที่ #3
เงียบกริบ เจ้าหน้าที่ตอบคงไม่มาทำงาน
โหวตคำตอบ
คะแนนโหวต (ทั้งหมด 0 คน) / 0 คะแนน
ความคิดเห็นที่ #4
เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะช้างบน เนื่องจาก ดอกเบี้ยกับเงินต้น ใกล้เคียงกันมาก ถูกหักพอๆกัน แล้วนึกว่า ทำเรื่องเดือนนี้จะยกเลิกภายในสิ้นเดือนดัน ยกเลิกเดือนถัดไป ซึ่ง แทบจะไม่ได้ช่วยเหลือ เอกสารการส่ง ยุ่งยาก ทำไมไม่ทำแบบอัตโนมัติ หากใครไม่ยินยอมให้ส่ง หรือแจ้งจะดีกว่า
โหวตคำตอบ
คะแนนโหวต (ทั้งหมด 0 คน) / 0 คะแนน
ความคิดเห็นที่ #5
เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะช้างบน เนื่องจาก ดอกเบี้ยกับเงินต้น ใกล้เคียงกันมาก ถูกหักพอๆกัน แล้วนึกว่า ทำเรื่องเดือนนี้จะยกเลิกภายในสิ้นเดือนดัน ยกเลิกเดือนถัดไป ซึ่ง แทบจะไม่ได้ช่วยเหลือ เอกสารการส่ง ยุ่งยาก ทำไมไม่ทำแบบอัตโนมัติเหมือนรัฐบาลหรือบางธนาคารประกาศ หากใครไม่ยินยอมให้ส่งเอกสาร หรือโทรแจ้งสหกรณ์ เพื่อลดความซับซ้อนที่ยุ่งยาก เรื่องลดอัตราดอกเบี้ยถือว่าดี และถือว่าช่วยได้มากสุด อย่างไร อยากให้ แอดมินมาตอบด้วย สมาชิกรอ
โหวตคำตอบ
คะแนนโหวต (ทั้งหมด 0 คน) / 0 คะแนน
ความคิดเห็นที่ #6
เห็นด้วยอย่าง ยิ่งมีเหตุผลที่ดี สหกรณ์ ควรทบทวน ในภาวะแบบนี้
โหวตคำตอบ
คะแนนโหวต (ทั้งหมด 0 คน) / 0 คะแนน
ความคิดเห็นที่ #7
เห็นด้วยครับ...
น่าจะพักชำระหนี้แก่สมาชิกบ้าง สัก 3 เดือน ไปถึงเปิดเทอม
น่าจะช่วยเหลือสมาชิกได้มากเลยครับ....
น่าจะพักชำระหนี้แก่สมาชิกบ้าง สัก 3 เดือน ไปถึงเปิดเทอม
น่าจะช่วยเหลือสมาชิกได้มากเลยครับ....
โหวตคำตอบ
คะแนนโหวต (ทั้งหมด 0 คน) / 0 คะแนน
ความคิดเห็นที่ #8
เห็นด้วยอย่างยิ่งคะ กรรมการควรพิจารณาใหม่ดีกว่านะคะ สงสัยที่ลดดอกเบี้ยลง แต่ทำไมยอดหักยังคงเท่าเดิม สงสัย ใครช่วยตอบแทน จนท.ก็ได้คะ
โหวตคำตอบ
คะแนนโหวต (ทั้งหมด 0 คน) / 0 คะแนน
ความคิดเห็นที่ #9
ต้องวิ่งหา คนค้ำให้วุ่นวายบางคนคนค้ำอยู่กันคนละอำเภออีก เหนื่อย
โหวตคำตอบ
คะแนนโหวต (ทั้งหมด 0 คน) / 0 คะแนน
ร่วมแสดงความคิดเห็น
หากต้องการร่วมแสดงความคิดเห็นหรือตอบข้อซักถาม กรุณาเข้าสู่ระบบ